วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2562

โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program)


โปรแกรมอรรถประโยชน์หรือโปรแกรมยูทิลิตี้ (utility programs
        เป็นซอฟท์แวร์ที่ทำหน้าที่เฉพาะอย่าง เพื่อการจัดการงานพื้นฐานและบริการต่างๆ เช่น การจัดเรียงข้อมูล (
sort) การรวมแฟ้มข้อมูลที่เรียงลำดับแล้วเข้าด้วยกัน (merge) หรือย้ายข้อมูลจากอุปกรณ์รับหนึ่งไปยังอุปกรณ์หนึ่ง  รวมทั้งสามารถใช้จัดการกับฮาร์ดแวร์โดยตรง โปรแกรมอรรถประโยชน์ส่วนใหญ่จะถูกรวมอยู่ในระบบปฏิบัติการอยู่แล้ว สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังต่อไปนี้

      1 โปรแกรมอรรถประโยชน์สำหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility programs)
            เป็นโปรแกรมที่ติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการอยู่แล้ว ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ ตัวอย่างโปรแกรม มีดังต่อไปนี้
              1.1 โปรแกรมจัดการไฟล์ (File manager) เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการไฟล์ต่างๆ ได้แก่ การคัดลอกแฟ้มข้อมูล การเปลี่ยนชื่อแฟ้มข้อมูล การลบแฟ้มข้อมูล การเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ๆ ได้เพิ่มความสามารถการแสดงไฟล์เป็นรูปภาพเหมือนจริง (image view) ทำให้การใช้งานมีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
              1.2 โปรแกรมยกเลิกการติดตั้งโปรแกรม (Uninstaller) เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการนำโปรแกรมและส่วนประกอบของโปรแกรมที่ติดตั้งไว้ในระบบออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่บริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์จะติดตั้งโปรแกรมยกเลิกการติดตั้งโปรแกรมไว้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมประยุกต์อยู่แล้ว
              1.3 โปรแกรมสแกนดิสก์ (disk scanner) เป็นโปรแกรมช่วยตรวจสอบความเสียหายหรือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ กล่าวคือ เมื่อใช้ฮาร์ดดิสก์เป็นเวลานาน มักเกิดส่วนที่เสียหาย ที่เรียกว่า bad sector ส่งผลให้การทำงานของฮาร์ดดิสก์ช้าลง หรืออาจทำให้การบันทึกหรือเขียนข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ยากขึ้น ดังนั้น ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมดังกล่าวตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ เพื่อค้นหาส่วนที่เสียหาย ไฟล์ที่มีข้อผิดพลาด และซ่อมแซมส่วนที่เสียหายได้              1.4 โปรแกรมจัดเรียงพื้นที่จัดเรียงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของฮาร์ดดิสก์  (Disk defragmenter) เป็นโปรแกรมที่ใช้การจัดเรียงข้อมูลให้เป็นระเบียบ ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ได้อย่างรวดเร็ว กล่าวคือ เมื่อมีการเรียกใช้งานฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์นั้นอยู่บ่อยๆ ไฟล์จะถูกจัดเก็บกระจัดกระจาย ไม่เป็นระเบียบและไม่ได้อยู่เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน เมื่อต้องการเรียกใช้อีกในภายหลังจะทำให้เวลาในการดึงข้อมูลนั้นๆช้าลง ดังนั้น ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมดังกล่าวช่วยจัดเรียงไฟล์ต่างๆให้เป็นระเบียบ
              1.5 โปรแกรมรักษาหน้าจอ (Screen saver) เป็นโปรแกรมรักษาและช่วยยืดอายุการใช้งานจอภาพของคอมพิวเตอร์ กล่าวคือ การเปิดจอภาพของคอมพิวเตอร์ให้ทำงานและปล่อยทิ้งไว้ให้แสดงภาพเดิมโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เป็นเวลานาน จะทกให้เกิดรอยไหม้บนสารเรืองแสงฉาบผิวจอ และไม่สามารถลบหายออกไปได้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานจะส่งผลให้อายุการใช้งานของหน้าจอคอมพิวเตอร์สิ้นลง ในการใช้โปรแกรมดังกล่าวผู้ใช้สามารถตั้งค่าระยะเวลาให้โปรแกรมตรวจสอบ และเริ่มทำงานได้ หากไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆของจอภาพ เช่น 5 นาที หรือ 10 นาที เป็นต้น เมื่อเราขยับเมาส์ หรือเริ่มที่จำงานใหม่ โปรแกรมนี้จะปิดไปอัตโนมัติ

     2 โปรแกรมอรรถประโยชน์อื่นๆ (Standalone utility programs) เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ตัวอย่างโปรแกรม มีดังต่อไปนี้

            2.1 โปรแกรมบีบอัดไฟล์ (File compression utility) เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่บีบอัดไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง ไฟล์ที่ได้จากการบีบอัดไฟล์ เรียกว่า ซิปไฟล์ (zip file) โปรแกรมบีบอัดไฟล์ที่นิยม เช่น WinZip, Winrar เป็นต้น
            2.2 โปรแกรมไฟร์วอลล์ (Firewall) เป็นโปรแกรมที่ช่วยป้องกันบุคคลภายนอกเข้ามาในระบบโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งจากระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ตโดยโปรแกรมจะทำการตรวจสอบข้อมูลที่เข้าและออกจากระบบ ถ้าพบว่ามีข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจเป็นข้อมูลจากผู้ไม่ประสงค์ดีที่เข้ามาในระบบ โปรแกรมจะไม่อนุญาตให้ข้อมูลดังกล่าวเข้ามาในระบบ โปรแกรมไฟร์วอลล์เป็นซอร์ฟแวร์ที่ผู้ใช้
สามารถนำไปใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นิยมใช้กับระบบปฏิบัติการ Windows เช่น Windows Firewall, ZoneAlarm, Lavasoft Personal 
Firewall, Pc Tools Firewall Plus เป็นต้น
            2.3  โปรแกรมป้องกันไวรัส (Anti virus program) การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีผู้ใช้งานร่วมกันหลายคนหรือการใช้งานในระบบเครือข่าย มักเกิดการเผยแพร่จากไวรัสคอมพิวเตอร์ซึ่งไวรัสเป็นโปรแกรมที่ผู้ไม่ประสงค์ดีพัฒนาขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น ทำลายระบบปฏิบัติการทำลายข้อมูลที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั้งรบกวนการทำงานต่างๆ เช่น ทำให้บูตระบบช้าลง ไม่สามารถเรียกใช้โปรแกรมได้สมบูรณ์ ทำให้คอมพิวเตอร์เกิดอาการค้าง (hang) หรือมีข้อความพิมพ์อัตโนมัติที่หน้าจอ เป็นต้น ดังนั้น บริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์จึงได้พัฒนาโปรแกรมขึ้นเพื่อค้นหาและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า โปรแกรม ป้องกันไวรัส  ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
             - แอนติไวรัส เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสทั่วๆไป จะค้นหาและทำลายไวรัสในเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น McAfee Virus Scan, Kaspersky, AVG Antivirus, Panda Titanium เป็นต้น             - แอนติสปายแวร์ เป็นโปรแกรมป้องกันการโจรกรรมข้อมูลจากไวรัสสปายแวร์ และจากแฮ็กเกอร์ รวมถึงการกำจัดแอดเวอร์ (adware) ซึ่งเป็นป๊อปอัพโฆษณาในอินเทอร์เน็ตอีกด้วย เช่น McAfee AntiSpyware, Ad-Aware SE Pro, Spyware BeGone เป็นต้น
อ้างอิง https://sites.google.com/site/hongfuupiyatida/sxftwaer-rabb-os/1-2-porkaerm-xrrthprayochn-utility-program

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2562

ฝาก


QR Code

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

Team Viewer


 

วิธีการใช้งาน Team Viewer


โปรแกรมประเภทนี้ มันช่วยให้เราทำงานสะดวกมากขึ้น เช่นกรณีอยู่นอกบ้าน หรือนอก office (ออฟฟิช) แล้วต้องการไฟล์ในเครื่องที่อยู่ที่บ้าน หรือเครื่องที่อยู่ต่างสถานที่กัน เราสามารถใช้ Internet(อินเทอร์เน็ต) เชื่อมต่อไปยังอีกเครื่องได้แบบสะดวกมากขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางไปเอาไฟล์ที่เครื่องนั้นๆ หรือหากกรณี ใช้ในแง่ของฝ่าย Support (ซัพพอร์ท) ให้กับลูกค้า เราก็สามารถเข้าไปยังเครื่องของลูกค้าที่อยู่ต่างสถานที่เพื่อจัดการ เครื่องคอมพิวเตอร์ของเค้าให้ได้แบบง่ายๆ ในบางครั้งจำเป็นต้องเข้าไปแก้ระบบเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่มีปัญหาซึ่งอยู่ต่างสถานที่ บางทีใช้การโทรศัพท์ บอกอีกฝ่ายก็ลำบาก หากอีกฝ่ายไม่ค่อยมีความชำนาญเรื่องคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงในแง่ของการเสนองาน เราก็ไม่ต้องเสียบสายโปรเจคเตอร์ หรือผ่านแฟลชไดร์ ให้ยุ่งยาก

1. สำหรับเครื่องไหนที่เป็นเครื่องที่เราจะไปตีท้ายครัว
ก่อนอื่นก็เรียกโปรแกรมขึ้นมาก่อน แล้วทำการจดหมายเลขของเครื่องเขาไว้ 

(ให้ เรียกโปรแกรม TeamView ขึ้นมาโดยไปคลิกที่ไอคอน TeamViewer 3 ที่ Desktop ของ Windows ถ้าหาไม่เจอก็ลองไปหาใน Start Menu ของ windows เอาเองก็แล้วกัน)


ให้คุณจดหมายเลข ID ของเครื่องที่เราจะเข้าไปตีท้ายครัว (กรอบสีฟ้าตามลูกศรชี้)

2. เปิดโปรแกรม TeamViewer ที่อยู่ในเครื่องของเรา (วิธีเปิดเหมือนข้อ 1) จะปรากฎหน้าตาดังภาพ


ที่ช่อง ID สีขาวตามลูกศรชี้ ให้นำหมายเลขที่จดไว้จากเครื่องที่เราจะเข้าไปตีท้าย com มากรอก เว้นวรรคให้ถูกด้วย เช่น 11 111 111 

จากนั้นคลิกที่ Remote Support 
แล้วคลิกปุ่ม Connect to Partner

ถ้าหากเห็นหน้าจอดังภาพ


ให้คลิกปุ่ม OK ผ่านไปได้เลย

หลังจากนั้นถ้ามิได้มีเหตุผิดปรกติอันใดเกิดขึ้น เราจะได้เห็นหน้าจอให้กำหนดรหัสผ่าน ดังภาพ


ก็ทำการป้อนรหัสผ่านของเครื่องที่เราจะไปตีท้ายครัว (รหัสผ่านที่เรากำหนดตอนติดตั้งโปรแกรม)
แล้วคลิกปุ่ม Log On

Google Form

Google Form

1.แบบสอบถาม

2.การตอบกลับ

Google Drive

GOOGLE DRIVE
จัดเก็บ,เข้าถึงและแชร์ไฟล์ไว้ที่ในเดียวกันได้อย่างปลอดภัย
เก็บไฟล์ได้ทุกประเภท เข้าถึงไฟล์ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ เมื่อแชร์ไฟล์ ผู้แชร์สามารถควบคุมระดับการเข้าถึงไฟล์ของผู้รับได้

สามารถเก็บไฟล์ได้มากและนานตามที่คุณต้องการ
G Suite แบบ Business และ Enterprise มีความจุในการจัดเก็บอย่างไม่จำกัด ซึ่งช่วยให้คุณเก็บไฟล์ต่างๆได้นานเท่าที่คุณต้องการ ในส่วนของแอดมินสามารถดูแลและปกป้องข้อมูลไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล และยังมี Vaultสำหรับ Drive มาช่วยดูแลสิทธิของผู้ใช้งานในการเข้าถึงไฟล์ได้แค่ระดับไหนและกำหนดนโยบาลเกี่ยวกับการแชร์ไฟล์หรือข้อมูลขององค์กร

ช่วยค้นหาไฟล์งานได้อย่างรวดเร็ว
Quick Access ใช้ระบบอัจฉริยะ ช่วยแนะนำไฟล์เอกสารที่คุณต้องการ ซึ่งอ้างอิงจากกิจกรรมที่คุณทำบ่อยๆ บน Google Drive หรือข้อมูลในไฟล์เอกสารที่เปิดดูบ่อย เพื่อให้คุณสามารถทำงานกับข้อมูลล่าสุดและสร้างเนื้อหาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

จัดระเบียบพื้นที่ไฟล์ของทีมที่ใช้ร่วมกัน
ใช้ Google Drive ของทีมเพื่อจัดเก็บไฟล์งานของทีมไว้ในพื้นที่ที่ใช้ร่วมกันได้อย่างปลอดภัยและจัดการไฟล์ได้ง่าย ไฟล์งานที่ถูกเพิ่มลงใน Drive ของทีมจะกลายเป็นไฟล์ของทีมทันที ซึ่งทำให้ทุกคนได้รับข้อมูลล่าสุดเสมอและมีสิทธิจัดการไฟล์งานต่างๆที่อยู่ใน Drive ของทีม

เข้าถึงไฟล์งานจากคอมพิวเตอร์ได้โดยที่ไม่ต้องเข้าผ่านเบราว์เซอร์
Drive File Stream ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงไฟล์จากคอมพิวเตอร์ได้โดยตรงและจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ดิสก์ทั้งหมดของคุณ ซึ่งลดเวลาในการรอตอนซิงค์ไฟล์น้อยลง

อ้างอิง : https://www.dmit.co.th/th/our-services-thai/google-g-suite/google-drive/